เอพิเดอร์มิส (Epidermis)

 

เอพิเดอร์มิส (Epidermis):: จัดเป็นเนื่อเยื่อผิวเป็นเนื้อเยื่อที่เกิดจากเซลล์เอพิเดอร์มิสหลายเซลล์มาอยู่รวมกัน

ลักษณะสำคัญ
         1. เป็นเนื้อเยื่อที่อยู่รอบนอกสุด ของพืชที่เจริญในขั้นปฐมภูมิ (primary growth)
         2. โดยทั่วไปเซลล์เรียงแถวเดียวเบียดกันแน่นไม่มีช่องว่างระหว่างเซลล์
         3. ผนังเซลล์ขั้นปฐมภูมิ ด้านนอกมักหนากว่าด้านในเพราะมีสารคิวติน(Cutin)มาเคลือบจนบางที่เห็นเป็นอีกชั้นหนึ่ง เรียกชั้นที่เกิดจากการสะสมของสารคิวตินนี้ว่าชั้นคิวติเคิล(Cuticle)ลักษณะของสารคิวตินเป็นสารประเภทแว็ก เคลือบช่วยป้องกันการระเหยของน้ำ
         4. บริเวณเนื้อเยื่อชั้นเอพิเดอร์มิส พบเซลล์ที่ทำหน้าที่พิเศษอื่นๆ เช่น
               - เซลล์คุม (Guard cell)
               - เซลล์ขนราก (Root hair)
               - เซลล์ขน (Trichome)
          5.เซลล์ที่ประกอบเป็นเนื้อเยื่อชั้นเอพิเดอร์มิสปกติจะไม่มีคลอโรพลาสต์ยกเว้นบริเวณเซลล์คุมจะพบ คลอโรพลาสต์กระจายอยู่ทั่วเซลล์
          6. เซลล์ที่ประกอบเป็นเนื้อเยื่อเอพิเดอร์มิส เซลล์ที่โตเต็มที่เซลล์ยังมีชีวิต แต่เซลล์อาจแตกสลายไปเมื่อพืชมีการเจริญเติบโตขั้นทุติยภูมิ ซึ่งจะมีการสร้างชั้นคอร์กขึ้นมาทดแทนเนื้อเยื่อผิวเดิม

บริเวณที่พบ
      เป็นเนื้อเยื่อที่อยู่ชั้นนอกสุดพบทุกส่วนของ ลำต้น กิ่ง ราก ของพืชที่มีการเจริญเติบโตในขั้นปฐมภูมิ(primary growth) นอกจากนี้ยังพบที่ชั้นนอกของกลีบดอก ใบ และผลอ่อน

หน้าที่
      ๐ ช่วยป้องกันอันตรายให้แก่เนื้อเยื่อที่อยู่ภายใน และเสริมความแข็งแรง
      ๐ สารคิวตินที่ผนังเซลล์ด้านนอก ช่วยป้องกันการระเหยและและการสูญเสียน้ำ
      ๐ ช่วยดูดซึมน้ำ แร่ธาตุ ในบริเวณที่มีขนราก
      ๐ เกี่ยวข้องกับกลไกการทำงานของปากใบ ในชั้นเอพิเดอร์มิสที่พบเซลล์คุม

    

         
ภาพ เนื้อเยื่อเอพิเดอร์มิสบริเวณรากของพืชใบเลี้ยงเดี่ยว

ภาพ ขนราก (Root hair)ซึ่งเป็นเซลล์ที่พบในชั้นเอพิเดอร์มิส

ภาพขน(Trichome) ซึ่งพบเซลล์ในชั้นเอพิเดอร์มิส

ภาพ ชั้นคิวติเคิล (Cuticle)

ภาพ เซลล์คุมที่ เนื้อเยื่อชั้นเอพิเดอร์มิส

 

ภาพ บริเวณผิวใบด้านบนชั้นเอพิเดอร์มิสมีชั้นนคิวติเคิลหนาทำให้น้ำไม่สามารถซึมผ่านลงไปได้

 

ครูผู้สอน ครูนันทนา สำเภา โรงเรียนปทุมราชวงศา อำเภอปทุมราชวงศา
จังหวัดอำนาจเจริญร สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอำนาจเจริญ